วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สมุนไพรไทยมากสรรพคุณ





"ข่า" เครื่องเทศสมุนไพรเก่าแก่ ที่คนไทยทั้งกินทั้งใช้กันมานานนับร้อยนับพันปี

          มีชื่อสามัญที่ฝรั่งใช้เรียก คือ alanga ginger หรือ alanga alangal บางครั้งก็เรียกตามเราว่า kha หรือ ka ด้วย แสดงให้เห็นว่า "ข่า" เป็นสมุนไพรที่เกี่ยวพันกับคนไทยอย่างแน่นแฟ้น จนฝรั่งต้องตั้งชื่อตามเลย เราสามารถพูดอย่างภาคภูมิใจได้ว่า เรื่องการใช้ข่าแล้ว ไม่มีใครเก่งเท่าคนไทย
          การใช้ "ข่า" เป็นเครื่องเทศ คนไทยนิยมใช้มากกว่าขิง อาจเพราะข่าปลูกขึ้นง่าย ทนทานไม่ต้องการการดูแลอะไรมากนัก มีอายุยืนยาว ไม่มีการลงหัว สามารถขุดมากินมาใช้ได้ตลอดปี ดังนั้น คนไทยจึงมีการกินและใช้ข่าในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เป็นทั้งเครื่องเทศดับกลิ่นคาว โดยใช้หัวข่าใส่ในต้มยำ ต้มข่า ต้มแซ่บ ใส่ในหม้อก๋วยเตี๋ยว เครื่องแกง น้ำพริกต่าง ๆ นอกจากนี้ เรายังกินหน่อข่า ดอกข่า เป็นผักแกล้ม ใส่ในข้าวยำของคนใต้ โดยใช้ใบข่าซอยใส่ลงไปหรือคั้นน้ำจากใบใส่ลงไปด้วย เป็นต้น
ในทางยา "ข่า" มีรสเผ็ดปร่า มีน้ำมันหอมระเหย มีกลิ่นหอมฉุนแรง คนไทยใช้ข่าเป็นยารักษาอาการเจ็บป่วยในแทบทุกระบบของร่างกาย
https://www.google.co.th/search?

มารู้จักโปรแกรม Google Sketch up กันเถอะ



       
    Google SketchUp เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three - Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกลการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นกมรจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนต์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
          นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับปลั๊กอิน (Plugin) ต่างๆที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Google SketchUp ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลั๊กอินที่ช่วยให้การสร้างรูปทรงต่างๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยในการจัดแสงเงาให้ดูสมจริงอย่างเช่น V-Ray หรือ Podium






วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ดอกกล้วยไม้






  กล้วยไม้เป็นพืชที่จัดอยู่ใน order Orchidales ซึ่งใน order นี้มีเพียง 4 family สำหรับกล้วยไม้จัดอยู่ใน family Orchidaceae พืชในวงศ์ (family) นี้มีอยู่ประมาณ 753 สกุล (genus) ในแต่ละสกุลยังแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ รวมแล้วมีประมาณ 30,000 ชนิด (species) สำหรับในประเทศไทยเป็นแหล่งกำเนิดของกล้วยไม้มากถึง 155 สกุล (genus) ส่วนที่พบและจำแนกแล้วมีถึง 1,100 ชนิด (species) 
       
           กล้วยไม้เป็นพืชที่มีส่วนต่างๆ สมบูรณ์ คือ มีราก ต้น ใบ ดอก และผล รากของกล้วยไม้ไม่มีรากแก้ว ลำต้นไม่มีแก่นไม้ ใบจัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีเส้นใบขนานกันตามความยาวของใบ ซึ่งมีรายละเอียดของส่วนต่างๆ ดังนี้

ราก


          รากของกล้วยไม้ไม่มีระบบรากแก้ว รากมีหน้าที่ดูดความชื้นจากอากาศ ดูดอาหารจากเครื่องปลูก รากบางชนิดมีสีเขียวซึ่งมีคลอโรฟีลล์ มีหน้าที่ปรุงอาหารได้ด้วย นอกจากนี้รากยังมีหน้าที่เกาะเครื่องปลูก เกาะต้นไม้ เพื่อให้ลำต้นทรงตัวอยู่ได้ รากของกล้วยไม้มีหลายประเภท คือ รากดิน รากกึ่งดิน รากกึ่งอากาศ และรากอากาศ รากแต่ละประเภทจะมีอยู่ในกล้วยไม้สกุลต่าง ๆ เพราะฉะนั้นผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ควรได้พิจารณาตัดสินใจเลือกใช้เครื่องปลูก และภาชนะปลูกที่มีลักษณะ และคุณสมบัติเหมาะสมกับประเภทของรากด้วย

ระบบรากดิน

          จัดเป็นกล้วยไม้ที่มีระบบรากเกิดจากหัวที่อวบน้ำอยู่ใต้ดิน ตัวรากจะมีน้ำมาก เช่นกล้วยไม้สกุลนางอั้ว กล้วยไม้ประเภทนี้พบมากบริเวณพื้นที่ที่มีสภาพอากาศในฤดูกาลที่ชัดเจน เช่น ฤดูฝนมีฝนตกชุก และมีฤดูแล้ง เมื่อถึงฤดูฝนหัวจะแตกหน่อใบอ่อนจะชูพ้นขื้นมาบนผิวดิน และออกดอกในตอนปลายฤดูฝน เมื่อพ้นฤดูฝนไปแล้วใบก็จะทรุดโทรมและแห้งไป คงเหลือแต่หัวที่อวบน้ำ และมีอาหารสะสมฝังอยู่ใต้ดินสามารถทนความแห้งแล้งได้








ระบบรากกึ่งดิน

          มีรากซึ่งมีลักษณะ อวบน้ำ ใหญ่หยาบ และแตกแขนงแผ่กระจายอย่างหนาแน่น สามารถเก็บสะสมน้ำได้ดีพอสมควร กล้วยไม้ประเภทนี้พบอยู่ตามอินทรีย์วัตถุที่เน่าเปื่อย ผุพังร่วนโปร่ง กล้วยไม้ที่มีระบบรากกึ่งดิน ได้แก่ กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี สกุลสเปโธกล๊อตติส สกุลเอื้องพร้าว เป็นต้น

แหล่งที่มา:http://orchids21.tripod.com/Html/other.html
              http://www.google.co.th/search?q

My profile




ชื่่่่อ ด.ญ.กานต์รวี   ทิพย์กันเงิน


ชื่อเล่น  อิ่ม

อยู๋ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 1/1    เลขที่ 3

โรงเรียน ลำปางกัลยาณี

จบมาจากโรงเรียน อ้อมอารีพิทยา

อาศัยอยู่บ้านเลขที่  166/2


ตำบล  วังพร้าว  

อำเภอ  เกาะคา

จังหวัด  ลำปาง

รหัสไปรษณีย์  52130

หมู่โลหิต 0